ตอบทุกข้อสงสัย Forklift มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร?

ตอบทุกข้อสงสัย รถ Forklift มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร เลือกใช้แบบไหนดี

รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) หรือรถยกสินค้า ที่ถูกใช้กันเป็นประจำในธุรกิจโลจิสติกส์คลังจัดเก็บสินค้า อุตสาหกรรมก่อสร้างและวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ในจำนวนครั้งละมากๆ ไปไว้ยังบริเวณต่างๆ ตามต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็วรวมไปถึงช่วยยกสิ่งของไปวางไว้ยังชั้นที่สูงเกินกว่ากำลังคนจะขึ้นไปด้วย ทั้งนี้ประเภทรถโฟล์คลิฟท์มีด้วยกันหลายประเภท หลายขนาด เช่น โฟล์คลิฟท์ดีเซล โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า แต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์การใช้งาน มีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันออกไป ซึ่งวันนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เพื่อการเลือกใช้งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์มากที่สุด

  • รถ Forklift มีกี่ประเภท
  • รถ Forklift ไฟฟ้า มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง
  • รถ Forklift เครื่องยนต์สันดาป มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง 

รถ Forklift มีกี่ประเภท

หากแบ่งประเภทรถโฟล์คลิฟท์ตามกำลังในการขับเคลื่อน รถ Forklift จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

1. รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) ที่ใช้แบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน มีทั้งแบบนั่งขับและยืนขับ

2. รถโฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์สันดาป (Engine Forklift) ที่ใช้เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  • รถโฟล์คลิฟท์น้ำมัน (รถดีเซล และ เบนซิน)
  • รถโฟล์คลิฟท์แก๊ส (รถปิโตรเลียมเหลว LPG และแก๊สธรรมชาติ CNG)

หากแบ่งรถออกตามประเภทการใช้งาน จะถูกแบ่งออกได้หลายประเภท ยกตัวอย่าง เช่น

  • รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า แบบนั่งขับ (Warehouse Forklift) เหมาะกับการขนถ่ายพาเลทลงจากรถ เพราะมีตะเกียบคู่ยื่นออกมาด้านหน้ามักใช้ในคลังสินค้า
  • รถโฟล์คลิฟท์ Side Loader เป็นรถแบบนั่งขับเช่นกัน เหมาะสำหรับยกถ่ายสินค้าในพื้นที่แคบมากๆ มักถูกใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเหล็ก ไม้ อลูมิเนียม ใช้ยกสินค้าที่มีน้ำหนักมาก หรือมีขนาดยาวมาก
  • รถโฟล์คลิฟท์ Rough Terrain เป็นรถที่เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ขรุขระงานกลางแจ้ง งานก่อสร้าง เพราะมียางรถขนาดใหญ่ แข็งแรง
  • รถโฟล์คลิฟท์ Telehandler เป็นรถแบบมีระยะเอื้อม มีบูมและแขนที่ยืดออกได้ เป็นการผสมระหว่างรถเครน และรถ Forklift เข้าด้วยกัน สามารถยกของหนักและสูงมากได้ มักใช้ในงานก่อสร้างหรือคลังสินค้าที่มีพื้นที่กว้างมาก มีชั้นวางของที่สูงมาก

รถ Forklift ไฟฟ้า มีข้อดี - ข้อเสีย อย่างไรบ้าง

  1. รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า เป็นรถยกที่ใช้กำลังการขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ เหมาะกับการใช้งานในอาคาร เช่น อาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า ห้องเย็น เป็นต้น ยกตัวอย่างรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า เช่น

ข้อดีของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

  • ปลอดภัยต่อการใช้งาน เนื่องจากไม่ต้องใช้น้ำมัน จึงไม่จำเป็นต้องสต๊อกน้ำมันซึ่งเป็นวัตถุไวไฟที่อาจเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ในอาคารได้
  • ไม่ต้องคอยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำในหม้อน้ำ น้ำหล่อเย็น น้ำมันเกียร์
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่ารถโฟล์คลิฟเครื่องยนต์สันดาป เนื่องจากไม่ต้องใช้น้ำมันหรือแก๊ส รวมไปถึงค่าบำรุงรักษาที่น้อยกว่าด้วย
  • มีขนาดเล็กกว่ารถโฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์สันดาป สามารถใช้ในบริเวณที่แคบได้ดี รัศมีการเลี้ยวดีกว่า สามารถเลี้ยวได้คล่องตัวกว่าด้วย
  • ไม่มีเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ขณะใช้งาน
  • ไม่มีควันหรือไอเสียรบกวนขณะใช้งานถือว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดีต่อสุขภาพของบุคลากรการทำงาน
  • ทนต่ออุณหภูมิติดลบได้ดี เช่น ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง
  • ง่ายต่อการรักษา

ข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

  • ต้องหมั่นชาร์จแบตเตอรี่ทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จเพราะหากลืมชาร์จแบตเตอรี่ จะทำให้เสียเวลาและเสียกำลังการทำงาน
  • ไม่เหมาะกับการใช้งานตลอด 24 ชม.
  • จำเป็นต้องมีแบตเตอรี่สำรอง
  • จำเป็นต้องมีสถานีชาร์จแบตเตอรี่
  • ราคารถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามักสูงกว่ารถโฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์สันดาปเนื่องจากมีกลไกและเทคโนโลยีขั้นสูง
  • หากชาร์จแบตเตอรี่ จำเป็นต้องอยู่ท่ามกลางพื้นที่ที่สามารถระบายอากาศได้ดีพอ หรือพื้นที่ที่มีอากาศเย็น เนื่องจากอาจเกิดความร้อนขณะชาร์จได้
  • ไม่เหมาะกับการใช้งานนอกอาคาร ในพื้นที่ที่มีพื้นขรุขระ
  • มีข้อจำกัดด้านสภาพอากาศ เช่น ไม่เหมาะกับการใช้งานท่ามกลางฝนตกที่อาจทำให้รถ Forklift ไฟฟ้า เสียหายได้
  • หากมีกลไกพิเศษมากเท่าไร เช่น เพิ่มไฮโดรลิค แบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วขึ้น

รถ Forklift เครื่องยนต์สันดาป มีข้อดี - ข้อเสีย อย่างไรบ้าง

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า รถโฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์สันดาปเป็นรถที่ใช้เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1. รถโฟล์คลิฟท์น้ำมัน ได้แก่

1.1 รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล คือ รถ Forklift ที่ใช้น้ำมันดีเซลในการขับเคลื่อน

ข้อดีของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

  • เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่กลางแจ้ง
  • ค่าน้ำมันถูกกว่าประเภทรถโฟล์คลิฟท์เบนซิน
  • มีกำลังยกสูงมาก เหมาะกับการยกสินค้าที่หนักหลายตัน
  • มีแรงบิดสูง สามารถเร่งความเร็วได้ดี โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความลาดชัน
  • ค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซมน้อยกว่าประเภทรถโฟล์คลิฟท์แก๊ส
  • เครื่องยนต์ทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน
  • สามารถใช้งานได้หลายชั่วโมง เมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
  • ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถเติมน้ำมันและกลับมาใช้งานต่อได้ทันที ซึ่งถือว่าประหยัดเวลากว่ารถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

ข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

  • ไม่เหมาะกับการใช้งานในอาคารหรือที่ร่ม เนื่องจากมีเสียงดัง และมีไอเสียที่ส่งผลต่อบุคคลากรในการทำงานและอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินค้าได้
  • อุปกรณ์กรองไอเสียมีราคาสูง
  • หากต้องการใช้งานในอาคารหรือที่ร่มจำเป็นต้องมีการประเมินคุณภาพเรื่องการระบายอากาศภายในอาคารเพื่อให้ปลอดภัยต่อคุณภาพสินค้าและบุคคลากรที่ทำงานในอาคาร
  • ถังเชื้อเพลิงขนาดใหญ่
  • ต้องแบกรับความเสี่ยงของค่าน้ำมันที่ไม่คงที่ และมีโอกาสสูงขึ้นเรื่อยๆ
  • แม้ค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซม จะน้อยกว่าประเภทรถโฟล์คลิฟท์แก๊ส แต่ก็ถือว่าสูงอยู่ดี เมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

1.2 รถโฟล์คลิฟท์เบนซิน คือ รถที่ใช้น้ำมันเบนซินในการขับเคลื่อน

ข้อดีของรถโฟล์คลิฟท์เบนซิน

  • เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่กลางแจ้ง
  • มีกำลังยกสูงมาก เหมาะกับการยกสินค้าที่หนักหลายตัน
  • มีแรงบิดสูงกว่ารถโฟล์คลิฟท์ดีเซล
  • ค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซมน้อยกว่าประเภทรถโฟล์คลิฟท์แก๊ส
  • เครื่องยนต์ทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน
  • สามารถใช้งานได้หลากหลายชั่วโมง เมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
  • ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถเติมน้ำมันและกลับมาใช้งานต่อได้ทันที ซึ่งถือว่าประหยัดเวลากว่ารถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

ข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์เบนซิน

  • ต้นทุนค่าน้ำมันเบนซินสูงกว่าดีเซล จึงไม่เป็นที่นิยมใช้เท่าใดนัก
  • ไม่เหมาะกับการใช้งานในอาคารหรือที่ร่ม เนื่องจากมีเสียงดัง และมีไอเสีย อุปกรณ์กรองไอเสียมีราคาสูง
  • หากต้องการใช้งานในอาคารหรือที่ร่ม จำเป็นต้องมีการประเมินคุณภาพเรื่องการระบายอากาศภายในอาคารเพื่อให้ปลอดภัยต่อคุณภาพสินค้าและบุคคลากร ที่ทำงานในอาคาร
  • ถังเชื่อเพลิงมีขนาดใหญ่
  • แม้ค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซม จะน้อยกว่าประเภทรถโฟล์คลิฟท์แก๊ส แต่ก็ถือว่าสูงอยู่ดี เมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
  • 2. รถ Forklift ปิโตรเลียมเหลว หรือ รถ Forklift แก๊ส LPG

ข้อดีของรถแก๊ส LPG

  • รถ Forklift แก๊ส LPG สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
  • มีราคาต่ำเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าและรถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้น้ำมัน
  • กรณีแก๊สหมด สามารถยกถึงแก๊สเปลี่ยนแล้วใช้งานต่อได้ทันทีทำให้ประหยัดเวลา
  • กำลังแรงบิดดีกว่ารถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ดีกว่าด้วย

ข้อเสียของรถแก๊ส LPG

  • ไม่เหมาะกับการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเนื่องจากมีโอกาสที่แก๊สจะรั่วไหลได้ หากไม่บำรุงรักษาให้ดีหรือใช้เครื่องยนต์ที่ไม่มีคุณภาพ
  • ไม่เหมาะกับการใช้ในอาคารที่มีอากาศเย็นและติดลบ
  • หากอยู่พื้นที่ห่างไกล แก๊ส LPG จะหาได้ยาก
  • รถสตาร์ทติดยากกว่ารถโฟล์คลิฟท์ประเภทอื่น
  • มีความซับซ้อนในการซ่อมบำรุง
  • ค่าบำรุงรักษาสูงที่สุดในบรรดารถโฟล์คลิฟท์ทุกประเภท
  • ถังแก๊สอาจบดบังวิสัยทัศน์การมองเห็นด้านหลังเล็กน้อย
  • ต้องใช้แรงบิดมาก เมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้น้ำมัน

2.2 รถ Forklift แก๊สธรรมชาติ หรือ รถ Forklift แก๊ส CNG

ข้อดีของแก๊ส CNG

  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • แม้เกิดการรั่วไหลของแก๊ส ก็มีความปลอดภัยสูง เพราะแก๊ส CNG จะระเหยได้อย่างรวดเร็ว
  • รถ Forklift แก๊ส CNG มีราคาถูกกว่าชนิดอื่นๆ
  • พลังเชื้อเพลิงสะอาด
  • สามารถใช้ทำงานในอาคารได้ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการระบายความร้อนภายในอาคารให้ดี

ข้อเสียของรถแก๊ส CNG

  • แม้ว่าแก๊ส CNG จะเป็นแก๊สธรรมชาติ แต่ก็เหมาะกับการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเนื่องจากมีโอกาสที่แก๊สจะรั่วไหลได้เช่นกัน
  • ไม่เหมาะกับการใช้ในอาคารที่มีอากาศเย็นและติดลบ
  • หากอยู่พื้นที่ห่างไกล แก๊ส CNG จะหาได้ยาก
  • ต้องเติมแก๊สบ่อยกว่าแก๊ส LPG แม้ขนาดถังแก๊สจะเท่ากัน
  • มีความซับซ้อนในการซ่อมบำรุง
  • ถังแก๊สอาจบดบังวิสัยทัศน์การมองเห็นด้านหลังเล็กน้อย
  • ต้องใช้แรงบิดมาก เมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้น้ำมัน

หากคุณสนใจซื้อหรือเช่ารถโฟล์คลิฟท์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและโอกาสในการเติบโตของธุรกิจของคุณ สามารถเข้ามาขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ศูนย์บริการ Maxcrane Machinery ผู้นำเข้าเครื่องจักรชั้นนำระดับโลกทุกสาขา ตั้งแต่วันจันทร์-เสาร์ ภายในเวลาทำการตั้งแต่ 08:00-17:30 น. หรือโทร 02-740-5888

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *